วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2564

กำหนดการวัดผลสัมฤทธิ์ปลายภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

 กำหนดการวัดผลสัมฤทธิ์ปลายภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ทั้ง 3 ระดับ ทดสอบวันที่ 3-4 เมษายน 2564 พร้อมกันทั่วประเทศ





โครงการจังหวัดเคลื่อนที่แบบบูรณาการ

 18 มีนาคม 2564

กิจกรรมโครงการจังหวัดเคลื่อนที่แบบบูรณาการ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้ม ให้ประชาชนจังหวัดนครพนม
ณ โรงเรียนบ้านหนองเทา ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม






โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน

 โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชน

หลักสูตรการใช้งานโปรแกรมสำนักงาน(ครู ค.)
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ณ ห้องประชุมกศน.อำเภอเมืองนครพนม อ.เมือง จ.นครพนม





อบรมความรู้การเลือกตั้งท้องถิ่นและการสังเกตการณ์การเลือกตั้งให้กับกรรมการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย ประจำปีงบประมาณ 2564 ณ โรงแรมไอโฮเทล จ.นครพนม

 วันที่ 5 มีนาคม 2564

ครูกศน.ตำบลพนอม,กรรมการและเลขานุการ (ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบลพนอม) เข้าร่วมการ
อบรมความรู้การเลือกตั้งท้องถิ่นและการสังเกตการณ์การเลือกตั้งให้กับกรรมการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย ประจำปีงบประมาณ 2564 ณ โรงแรมไอโฮเทล จ.นครพนม
โดย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม





รับการการนิเทศการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ในการใช้ Google classroom

วันที่ 10 เดือนมีนาคม 2564

ยินดีต้อนรับประธานและคณะกรรมการ การนิเทศการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ในการใช้ Google classroom
ณ ห้องประชุม กศน.อำเภอท่าอุเทน และกศน.ตำบลรามราช



วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2563

รับสมัครนักศึกษา กศน.อำเภอท่าอุเทน ประจำภาคเรียนที่ 1/2563

รับสมัครนักศึกษา กศน.อำเภอท่าอุเทน
ประจำภาคเรียนที่ 1/2563 ระดับประถมศึกษา,มัธยมศึกษาตอนต้น,มัธยมศึกษาตอนปลาย
สนใจสมัครเรียน
📩ส่งข้อความทักที่เพจกศน.ตำบลพนอม

ความรู้เรื่องไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19

สถานการณ์ของโรคระบาดที่มีชื่ออยู่โลกออนไลน์ตลอดทุกวัน และยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นอย่าง
ไวรัสโคโรนา” หรือ “โควิด-19” ทำให้ใครหลายคนเป็นกังวล และคอยติดตามข่าวสารกันอยู่ตลอดถึง
จำนวนผู้ติดเชื้อ อัตราการเสียชีวิต รวมไปถึงการป้องกันตัวเองให้รอดพ้นจากการติดเชื้ออันตรายนี้
มีเรื่องอะไรที่เราควรรู้เกี่ยวกับ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 บ้าง 
·         ไวรัสโคโรนา หรือไควิด 19 คืออะไร?
·         ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด 19 มาจากไหน?
·         อาการโควิด 19 เมื่อติดเชื้อจะต้องทำอย่างไร เป็นอันดับแรก
·         อันตรายของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด 19
·         กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด 19
·         หากมีอาการโควิด 19 ควรทำอย่างไร ?
·         วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างละเอียด
ไวรัสโคโรนา หรือไควิด-19 คืออะไร?
ไวัรสโคโรนา (Coronavirus) เป็นไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากที่ใด 
แต่เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งหมด สายพันธุ์ 
ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ จึงถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และในภายหลังถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โควิด-19” (COVID-19นั่นเอง 
ดังนั้น ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และโควิด-19 จึงหมายถึงไวรัสชนิดเดียวกัน
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 มาจากไหน?
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 แรกเริ่มเดิมทีถูกค้นพบจากสัตว์ก่อน โดยเป็นสัตว์ทะเลที่มีการติดเชื้อไวรัสนี้แล้วคนที่อยู่ใกล้ คลุกคลีกับสัตว์เหล่านี้ก็ติดเชื้อไวรัสมาอีกที โดยเริ่มจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยมีข้อสงสัยว่ามาจากตลาดที่ค้าขายสัตว์ทะเล และสัตว์หายากเหล่านี้
อาการเมื่อติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 
ข้อมูลจาก องค์การอนามัยโลก ระบุว่าอาการโควิด-19 ที่สังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองมี อาการหลัก ๆ ด้วยกันดังนี้
1.       มีไข้
2.       เจ็บคอ
3.       ไอแห้ง ๆ
4.       น้ำมูกไหล
5.       หายใจเหนื่อยหอบ
บางรายมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ โดย ทางด้านแพทย์อาจจะตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยการเอกซ์เรย์ปอด แล้วพบว่าปอดบวมอักเสบร่วมด้วย หากมีอาการหนักมาก ๆ (พบว่าติดเชื้อในระยะหลัง ๆ แล้ว) อาจอันตรายถึงอวัยวะภายในต่าง ๆ ล้มเหลว
อันตรายของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19
แม้ว่าอาการโดยทั่วไปจะดูเหมือนเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา แต่ที่กลัวกันทั่วโลกเป็นเพราะเชื้อไวรัสนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่มียาปฏิชีวนะตัวไหนที่สามารถรักษาให้หายได้โดยตรง การรักษาเป็นไปแบบประคับประคองตามอาการเท่านั้น
นอกจากนี้ อันตรายที่ทำให้เสี่ยงถึงชีวิต จะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิต้านทานโรคของเราไม่แข็งแรง หรือเชื้อไวรัสเข้าไปทำลายการทำงานของปอดได้ จนทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายลุกลามมากขึ้น รวดเร็วขึ้น
กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19
·         เด็กเล็ก (แต่อาจไม่พบอาการรุนแรงเท่าผู้สูงอายุ)
·         ผู้สูงอายุ
·         คนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง
·         คนที่ภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือกินยากดภูมิต้านทานโรคอยู่
·         คนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมาก (คนอ้วนมาก)
·         ผู้ที่เดินทางไปในประเทศเสี่ยงติดเชื้อ เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อิตาลี อิหร่าน ฯลฯ
·         ผู้ที่ต้องทำงาน หรือรักษาผู้ป่วย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 อย่างใกล้ชิด
·         ผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจำนวนมาก เช่น คนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ลูกเรือสายการบินต่าง ๆ เป็นต้น
หากมีอาการโควิด 19 ควรทำอย่างไร ?
·         หากมีอาการของโรคที่เกิดขึ้นตาม ข้อดังกล่าว ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด และเมื่อแพทย์ซักถามควรตอบตามความเป็นจริง ไม่ปิดบัง ไม่บิดเบือนข้อมูลใด ๆ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องมากที่สุด
·         หากเพิ่งเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ควรกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปข้างนอกเป็นเวลา 14-27 วัน เพื่อให้ผ่านช่วงเชื้อฟักตัว (ให้แน่ใจจริง ๆ ว่าไม่ติดเชื้อ)
หากสงสัยว่าตัวเองอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ควรทำอย่างไร ?
หากตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น มีอาการของโรค หรือเพิ่งกลับจากประเทศที่เสี่ยงติดเชื้อมา สามารถขอตรวจโรคกับทางโรงพยาบาลได้ มีทั้งแบบฟรี และแบบมีค่าใช้จ่าย
**หากไม่มีอาการใด ๆ เลย ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจ
ตรวจเชื้อโควิด-19 ฟรี หากผู้เข้าตรวจตรงตามเกณฑ์เหล่านี้
1.       เพิ่งกลับจากการเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง
2.       มีอาการผิดปกติที่ระบบทางเดินหายใจ
3.       มีไข้มากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส
4.       มีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย ปอดอักเสบอย่างไม่ทราบสาเหตุ
5.       มีประวัติใกล้ชิด หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ เช่น คนในครอบครัวเพิ่งกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
6.       ทำอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจำนวนมาก เช่น คนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ ลูกเรือสายการบิน เป็นต้น
วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
1.        หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ
2.       หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
3.       สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
4.       ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมถึงสิ่งที่มีคนจับบ่อยครั้ง เช่น ที่จับบน BTS, MRT, Airport Link ที่เปิด-ปิดประตูในรถ กลอนประตูต่าง ๆ ก๊อกน้ำ ราวบันได ฯลฯ เมื่อจับแล้วอย่าเอามือสัมผัสหน้า และข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า ฯลฯ
5.       ล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาที ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% (ไม่ผสมน้ำ)
6.       งดจับตา จมูก ปากขณะที่ไม่ได้ล้างมือ
7.       หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ต่าง ๆ โดยที่ไม่มีการป้องกัน
8.       รับประทานอาหารสุก สะอาด ใช้ช้อนกลาง ไม่ทานอาหารที่ทำจากสัตว์หายาก
9.       สำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 โดยตรง ควรใส่หน้ากากอนามัย หรือใส่แว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันเชื้อในละอองฝอยจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งเข้าตา