แหล่งเรียนรู้ในตำบลพนอม




     










 รอยเท้าไดโนเสาร์ ที่ท่าอุเทน
ที่อยู่:ทางหลวงแผ่นดิน 212 ถนนท่าอุเทน-บ้านแพง ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม 48120  NakhonPhanom, Tha Uthen District, Nakhon Phanom 48120
          ทันทีที่พารถผ่านมาสู่ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน ถึงไม่ต้องสังเกตมากมายก็คงเห็นเหล่าไดโนเสาร์ยืนทักทายอยู่สองข้างทางเป็นระยะ ไม่ต้องประหลาดใจเพราะที่นี่เขามี ไดโนเสาร์ เป็นจุดขายไงล่ะ! ไดโนเสาร์ที่ว่าคือรอยเท้าไดโนเสาร์ของแท้แน่นอนไม่มีลวงโลกคนงานในพื้นที่พบโดยบังเอิญก่อนส่งเรื่องต่อให้นักธรณีวิทยามาสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2544 ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกรมทรัพยากรณีจัดทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเล็กๆ ภายใต้ชื่อแหล่งเรียนรู้รอยเท้าไดโนเสาร์ท่าอุเทน มีส่วนจัดแสดงรอยเท้าบนแผ่นหินทรายสีน้ำตาลแดงสองจุดใกล้กัน รอยเท้าไดโนเสาร์ที่พบเป็นพวกไดโนเสาร์นกระจอกเทศ ไดโนเสาร์อีกัวดอน รวมถึงรอยเท้าจระเข้ ไม่ต้องกลัวว่าดูไม่ออกเพราะรอยเท้าชัดมากแถมมีป้ายบอกอย่างดี น่าเสียดายไม่มีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้ปล่อยให้เดินชมกันเอาเอง
การเดินทางมาชม ไดโนเสาร์ที่ ท่าอุเทน
อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 212 เขตตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน ห่างจากตัวเมืองนครพนมประมาณ 55 กิโลเมตร









รอยเท้าไดโนเสาร์ท่าอุเทน-1-1024x768.jpg












รอยเท้าไดโนเสาร์ท่าอุเทน-2-768x1024.jpg


รอยเท้าไดโนเสาร์ท่าอุเทน-4-1024x768.jpgรอยเท้าไดโนเสาร์ท่าอุเทน-5-768x1024.jpgรอยเท้าไดโนเสาร์ท่าอุเทน-6-1024x768.jpg

ที่มา http://www.tiewplearn.com/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%99/










รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว
แหล่งเรียนรู้รอยเท้าไดโนเสาร์ท่าอุเทนตั้งอยู่บนถนนทางหลวงแผ่นดิน 212   ท่าอุเทน บ้านแพง  ห่างจากอำเภอท่าอุเทน 27 กม.โดยตั้งอยู่ที่ตำบลพนอม   อำเภอท่าอุเทน    จังหวัดนครพนม รอยเท้าไดโนเสาร์ท่าอุเทนนั้นส่วนใหญ่พบอยู่ในแหล่งห้วยด่านชุม  อำเภอท่าอุเทน  จังหวัดนครพนมโดยพบว่าเป็นรอยเท้าไดโนเสาร์บนพื้นหินทราย  สีน้ำตาลแดง  หมวดหินโคกกรวด ในยุคครีเตเซียสตอนต้นอายุประมาณ  100  ล้านปี  แบ่งออกเป็น 2  กลุ่มคือ เทอร์โรพอตและออร์นิโธพอต
สำหรับความเป็นมาของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2544 ขณะที่คนงานกำลังระเบิดหินในพื้นที่ของเอกชนเพื่อนำไปก่อสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งตามแนวลำน้ำโขงก็สังเกตเห็น "รอยเท้าประหลาด" ของสัตว์ฝังอยู่ในหิน จึงได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ นักธรณีวิทยาจากกรมทรัพยากรธรณีวิทยา นำโดย ดร.วราวุธ สุธีธร ลงพื้นที่มาตรวจสอบ ผลการตรวจสอบสร้างความตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะรอยเท้าประหลาดที่พบ คือ รอยเท้าของ ไดโนเสาร์ นกกระจอกเทศ และ อีกัวดอน รวมทั้ง รอยเท้าจระเข้ขนาดเล็ก อีก 1 ชนิดรอยตีนไดโนเสาร์ท่าอุเทน พบอยู่ในแหล่งห้วยด่านชุม อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พบว่าเป็นรอยตีนไดโนเสาร์บนพื้นหินทราย สีน้ำตาลแดง หมวดหินโคกกรวดในยุคครีเตเซียสตอนต้นอายุประมาณ 100 ล้านปี แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือเทอร์โรพอตและออร์นิโธพอต รอยตีนไดโนเสาร์ออร์นิโธพอต มีจำนวน 1 แนวทางเดิน ขนาดรอยตีนยาวประมาณ 18 เซนติเมตร กว้าง 12.12 เซนติเมตร คำนวณความสูงจากสูตรของThulborn (1989) ได้ประมาณ 86.4 เซนติเมตร คำนวณความเร็วจากสูตรของAlexander(1976) เร็ว ประมาณ 8.07กิโลเมตร/ชั่วโมง รอยตีนไดโนเสาร์เทอร์โรพอต จำนวน 29 ทางเดิน ขนาดของรอยตีนกว้าง 6 ถึง 16.1 เซนติเมตรยาว 10 ถึง 18 เซนติเมตร ประมาณความสูงได้ 48 เซนติเมตรถึง 75.15 เซนติเมตร มีความเร็วประมาณ 4.53 ถึง 11.66 กิโลเมตร/ชั่วโมงจากร้อยเท้านับร้อย ๆ รอย และแนวทางเดินนับสิบรอย มีทั้งที่กำลังเดิน ไปทางซ้าย ทางขวากำลังวิ่ง ลื่นไถล ไปข้างหน้า วกกลับมาทางเดิมแสดงให้เห็นถึงจำนวนไดโนเสาร์นับสิบตัวที่เดินผ่านไปมาบริเวณนี้ในช่วงเวลา ใกล้กันซึ่งส่วนใหญ่เป็นรอยเท้าของ ไดโนเสาร์ออร์นิโธนิโมซอหรือไดโนเสาร์ นกกระจอกเทศ ที่มักอาศัยอยู่รวมกัน เป็นฝูงนอกจากนั้นเป็นรอยเท้าของ ไดโนเสาร์อิกัวโนดอนไดโนเสาร์จำพวก ซอโรพอด และจระเข้ทำให้สันนิษฐานได้ว่าเมื่อ 100 ล้านปีที่แล้วบริเวณนี้เคยเป็นที่ราบริมฝั่งแม่น้ำที่บรรดาสัตว์หลายชนิดต่างลงมาหากินอยู่บริเวณนี้ธรณีวิทยาแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ท่าอุเทนแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ท่าอุเทนจัดอยู่ในหมวดหินโคกกรวด ยุคครีเทเซียส อายุประมาณ 100 ล้านปีมาแล้ว ประกอบด้วยชั้นหินทรายสีน้ำตาลแดงหินทรายแป้งสีน้ำตาลแดง และหินโคลนสีน้ำตาลแดงมีรอยริ้วคลื่น และรอยระแหงโคลน การคัดขนาดของเม็ดทรายแดงอยู่ในระดับปลานกลาง แสดงสภาพแวดล้อมอมโบราณแบบแม่น้ำพัดพาริมฝั่งแม่น้ำท่าอุเทน ในอดีต



พระนอน
ที่อยู่:บ้านพนอม หมู่ 3 ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม 48120
          36925_1452504643_1_th.jpg

 

ประวัติความเป็นมา

ตำบลพนอม เดิมเป็นหมู่บ้านชื่อ "บ้านพระนอน" เนื่องจากในบริเวณหมู่บ้านริมแม่น้ำโขงมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ โดยประชาชนกลุ่มแรกเป็นคนอพยพมาจากประเทศลาว ต่อมาเมื่อจำนวนหมู่บ้านมากขึ้น จึงได้จัดตั้งขึ้นเป็นตำบลโดยใช้ชื่อว่า "ตำบลพนอม" เป็นตำบลที่ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอท่าอุเทน ประกอบด้วย 11 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 1 บ้านพนอม หมู่ 2 บ้านหนองสาหร่าย หมู่ 3 บ้านพนอม หมู่ 4 บ้านพนอมทุ่ง หมู่ 5 บ้านพนอมเหนือ หมู่ 6 บ้านโหนโห่ หมู่ 7 บ้านเหล่าศรี หมู่ 8 บ้านเหล่าหนาด หมู่ 9 บ้านดง หมู่ 10 บ้านนากระเสริม หมู่ 11 บ้านดงน้อย

ประวัติบ้านพนอม
    ประวัติความเป็นมา"บ้านพนอม" เพี้ยนมาจากคำว่า "พระนอน" ก่อตั้งขึ้นประมาณ พ.ศ.2327 ในสมัยรัชกาลที่ 1 ขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ เล่าว่ามีชาวกรุงเวียงจันท์ อพยพล่องเรือมาตามลำแม่น้ำโขง ขึ้นฝั่งเทียบท่าที่"ปากห้วยหนองเทา(โรงเรียนบ้านพนอมปัจจุบัน)" ได้นำพระพุทธรูปสร้างด้วยปูน"ปางไสยาสน์" พุทธลักษณะนอนตะแคงขวา รูปทรงอยู่ในปางทรมาน มีร่างกายซูบผอมเหลือแต่โครงกระดูก ยาว 1.20 เมตร ติดเรือมาด้วย จึงเรียกชื่อพระองค์นี้ว่า "พระแจงแห้ง" คือผู้ที่มีร่างกายผอมแห้งนั่นเอง!!
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrzj2HbTV55n2fEu-kPEeih285hf5SHJc4OyOrfYk2QyKI0eIcxebcZUke_PFmw0ecepAhBZoZMayrZbHBmIta-Hp8ufq36_QXmEsvgiXuFlDTCJdxT6GSopdSvgK7M9WTSo2QDL_Ap27e/s320/36925_1452504643_1_th.jpg

          ต่อมาพระแจงแห้งพลัดตกจากที่สูงจนเศียรหัก ร่ำลือว่าอาจจะเกิดอาเพศเหตุร้าย จึงตกลงนำพระแจงแห้งไปลอยแพในแม่น้ำโขง เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ จากนั้นก็ตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ ตามรูปทรงของพระปางไสยาสน์ว่า "บ้านพระนอน" ภายหลังเพี้ยนมาเป็น"บ้านพนอม"!!
พ.ศ.2382 สมัยรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว บ้านพนอมได้ย้ายวัดและชุมชนจากปากห้วยหนองเทา(โรงเรียนบ้านพนอม) มาตั้งอยู่ที่ "ปากห้วยไผ่" บริเวณต้นโพธิ์ใหญ่ ตั้งชื่อว่า "วัดศรีชมชื่น" ภายหลังเกิดน้ำโขงกัดเซาะตลิ่งพัง จึงย้ายวัดไปสร้างแห่งใหม่ โดยมีพระพุทธรูปโบราณเป็นองค์ประธานอยู่ภายในอุโบสถ แต่ปี พ.ศ.2520 มีโจรใจบาปแอบขโมยพระพุทธรูปดังกล่าวไป..!!
พ.ศ.2455 ต้นรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หมู่บ้านพนอมยกฐานะเป็น"อำเภอพนอม" มี "ขุนชัยประชาบาล(แฉ่ง)" เป็นนายอำเภอคนแรก ในปีเดียวกันนายอำเภอแฉ่งย้ายสลับตำแหน่งไปอยู่ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร นายอำเภอพนอมคนที่สองชื่อ "พระบริบาลสุภากิจ(คำสาย ศิริขันธ์)" แต่เป็นอำเภอได้แค่ปีเดียว พ.ศ.2456 ก็ยุบไปรวมกับ"เมืองไชยบุรี" ก่อนจะขึ้นตรงกับ อ.ท่าอุเทน ในปัจจุบัน!!

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhCHJCVBzkUKK1XNZtunQVB783wxxwOAMli8uo-aUvLIRP3hoLhK1E8je2zgxA89BmtMu84aK7can4Se0AKimnFiYxbRIQGA1_YlyDefqY2aV8nm-E2pUK34AYX8MypE0iqJkFeE33ov7Di/s320/18072704_1376775579035752_2083829928_n.jpg
หอพระธรรม
"อาถรรพณ์ศักดิ์สิทธิ์"
ชาวบ้านพนอมได้ให้การเคารพบูชา "พระธัม" เล่ากันว่า ''พระธัม'' เป็นผู้ทรงศีล มีวิชาแก่กล้าและได้บำเพ็ญเพียรภาวนาในถ้ำ ได้เดินทางมาจากประเทศลาว มาถึงหมู่บ้านพนอมในช่วงที่กำลังมีโรคร้ายเเรงระบาดคือโรคห่า มีคนตายมากมาย ''พระธัม'' ท่านนี้ได้มาขจัดภัยเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไปจากหมู่บ้าน ชาวบ้านพนอมจึงได้ให้ความรักและเคารพต่อ "พระธัม"
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgZZjX2x8NOzFhWTOWbVpt0vjW-f-Ty7eyo6Ul93_UGH-oNZsJbEOJctE_l-2W3Rn4xvnYV04jgKuzqk0zquIRfeVAzYTeAiQs0K7plECNdaR8cszGxjcjDFCmguVJ2cGx260BZcmS7uewf/s400/18110713_1376775862369057_943651842_n.jpg

ภายหลัง"พระธัม"ได้หายตัวไปอย่าลึกลับ (ชาวบ้านได้บอกว่าถ้าท่านมี่ลูกผู้หญิง ท่านจะเดินทางไปจากหมู่บ้านนี้) มีคนพบเห็นท่านครั้งสุดท้ายแถวๆ วัดศรีชมชื่นเก่า ชาวบ้านจึงได้ร่วมใจกันสร้าง "หอพระธัม" และได้มี"ประเพณีการเลี้ยงพระธัม'' เป็นประจำในทุกปี มีการเลี้ยงขนมหวาน,น้ำ,หมาก เท่านั้น ห้ามเอาเนื้อสัตว์และสุราเข้าไหว้
ความศักดิ์สิทธ์ของ''พระธัม''มีอยู่มากมาย เมื่อก่อนได้มี ตำรวจ ตชด.(ตระเวนชายแดน)ได้ย้ายมาจากภาคกลางได้มาทำการลบหลู่ ''พระธัม'' ด้วยการยิงปืนในแถวๆ "หอพระธัม" ทั้งยิงขึ้นฟ้า ยิงใส่เข้าไปใน''หอพระธัม'' ยิงไปยิงมา สายตาของตำรวจได้พบกับชายชรานุ่งผ้าถุงยืนสงบนิ่งอยู่หน้า''หอพระธัม'' จึงได้ยิงปืนใส่เข้าไปด้วยความกลัว ปรากฎว่ายิงเท่าไหร่ก็ยิงไม่ออก ทั้งๆที่เอาปืนยิงขึ้นฟ้า ลูกกระสุนก็ออกเหมือนตามปกติ แต่พอเล็งปืนพร้อมเหนี่ยวไกปืนเข้าหาชายชราคนนั้น ปืนกับด้าน ตำรวจผู้นั้นถึงกับเข่าอ่อนหน้าซีดด้วยความกลัวพร้อมก้มลงขอขมาลาโทษเป็นการใหญ่ ชาวบ้านสันนิษฐานว่าอาจจะเป็น "พระธัม" ส่วนตำรวนท่านนั้นถึงตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่และเป็นผู้ดูเเล''หอพระธัม'' ท่านได้กลับมาเคารพและศรัทธาเลื่อมใสใน"พระธัม" เป็นอย่างมาก

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg_32IfoaZeX3YaJfOqQ4eO-X8cvcM50CcHjwt9pdNTqK26yWEtkIxT3tSSpEc4Qy8mWkgIuCSkNKPXpI_5x_rbYiW8JUV3sTQbEf4Eb8q7CbNRmeHQnvMnh6r9J3LSnWa1NJYnAal2fJs4/s400/18110713_1376775862369057_943651842_n.jpg

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเหลือเชื่อในหมู่บ้านพนอม คือ "นางสมอน ศรีสวัสดิ์ อายุ 67ปี" เหตุเกิดวันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2541 หลัง คุณยายสมอนได้กินข้าวเย็นเสร็จก็ได้เตรียมตัวนอนเหมือนเช่นทุกวัน จนประมาณสามทุ่ม ชาวบ้าน ได้เห็นคุณยายสมอนได้เดินไปทางน้ำโขง แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนถึงตอนเช้า ลูกหลานไม่เห็นคุณยายสมอนจึงตกใจและได้ออกตามหา ระหว่างที่ตามหา ได้มีรถ จยย. คันนึงได้นำจดหมายจากโรงพยาบาลส่งมาให้คนทางบ้านไปรับคุณยายสมอนที่โรงพยาบาลท่าแขก แขวงคำม่วน สปป. ลาว ทุกคนต่างไม่เชื่อ เพราะบ้านพนอมห่างจากเมืองท่าแขกตั้ง 60 กิโลเมตร!! คุณยายสมอนไปโผล่ที่นั้นได้อย่างไร จึงได้รีบเดินทางไป รพ. ทันที ซึ่งก็พบคุณยายนอนอยู่บนเตียงคนไข้จริงๆ
คำบอกเล่าจากคนที่นำคุณยายหมอนไปส่ง รพ. ทราบว่า ตนได้กำลังหาปลากลางแม่น้ำโขง เห็นผู้หญิงลอยน้ำมา ครั้งแรกคิดว่าเป็นศพ ตนจึงใช้ไม้พายตีดู ปรากฏว่าเป็นคนมีชีวิตอยู่ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที สรุปว่า คุณยายหมอนได้หายไปจากบ้านเป็นเวลา 1วัน1คืน 
คุณยายหมอนหลังจากได้กลับมาถึงบ้าน ได้เล่าว่า ตนเองฝันว่ามีคนแต่งตัวเสื้อผ้าสวยงามมาก พากันมารับคุณยายไปทำบุญที่เมืองใต้น้ำ มีขบวนกลองฆ้องแห่ไปตามหมู่บ้าน ก่อนที่ตนจะไปได้นำผ้าถุงไปเปลี่ยนด้วย 2 ผืน คุณยายได้เปลี่ยนผ้าถุงที่เมืองบาดาล 1ผืน หลังจากงานเสร็จ คนเหล่านั้นได้นำคุณยายสมอนมาส่งที่บ้านพร้อมบอกว่า "อีก 5 ปีจะมารับไปอยู่ด้วยจริงๆแล้วนะ" ลูกหลานได้ยินอย่างนั้นจึงได้ดูแลคุณยายอย่างไม่ให้คลาดสายตา 
วันเวลาล่วงมาถึงวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2545 คุณยายได้หายออกไปจากบ้านอีกครั้ง คนทั้งหมู่บ้านจึงได้ออกตามหาคุณยายสมอนกันตลอดแถวทางน้ำ แต่คราวนี้ได้พบคุณยายสมอนลอยน้ำเป็นศพติดบริเวณแพชาวบ้านห่างไปจากตัวบ้านของคุณยายสมอนแค่ 500 เมตร ลุกหลานเลยคิดย้อนกลับไปถึงเมื่อ 5ปีที่แล้วที่คุณยายเล่าว่าจะมีคนมาพาไปอยู่ด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเหนือธรรมชาติซึ่งหาข้อพิสูจน์ไม่ได้มาจนทุกวันนี้ว่าคุณยายลอยน้ำกลางแม่น้ำโขงที่มีน้ำเชี่ยวแรงไปเป็นระยะทางตั้ง 60 กม. ได้อย่างไร ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องราว อาถรรพณ์ศักดิ์สิทธิ์ใน "บ้านพนอม"
























กศน.ตำบลพนอม
ที่ตั้ง: บ้านดง หมู่ที่ 9 ตำบลพนอม  อำเภอท่าอุเทน  จังหวัดนครพนม













ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล
(กศน.ตำบล) บ้านดง ม.9 ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม 48120


แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (แม่น้ำหนองหาร)
ที่ตั้งหมู่ 12,หมู่ 8 บ้านเหล่าหนาด ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
เส้นทางหลัก ถนนทางหลวงหมายเลข212 นครพนม-บ้านแพง

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg8XmwCbeQe8EZo3bBN-G98XhawSW67eM9NkeQJq3N4anfNX_Vc0Xj5KRJifn1idIokK1f-sC_G5Of1KLUFRZ-DBiXvX7TKuUx-szA3PfQsPf9liiRI9yxgmaC-0WqnL1X9M-asPVTdZvTE/s400/15230640_611299385739218_5151228185695871431_n.jpg

เป็นสถานที่พักผ่อนในครอบครัวมีบรรยากาศเย็นสบาย ล่องแพรในหนองหาร มีการจัดกิจกรรมในช่วงวันสำคัญต่างๆ เช่น สงกรานก็จะจัดหาดทรายเทียม มีหมอลำซิ่ง และมวยทะเลที่ทาง อบต. ไชยบุรี จัดมาให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนาน
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjJi7RdWe77w2Y0zWARUceQGmhEZgQtbKWWUe7jog-IY7Fj8GZQepWC66Zk1km_DaNFO4BX00zHwlrn9X-4wLPCqYXUCcOGucLHQb5-lbj9X686btfgKdVnTJVMzPjpNnrFFtw3mNW0L6QK/s400/1794542_223917151144112_2012989951_n.jpg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjJi7RdWe77w2Y0zWARUceQGmhEZgQtbKWWUe7jog-IY7Fj8GZQepWC66Zk1km_DaNFO4BX00zHwlrn9X-4wLPCqYXUCcOGucLHQb5-lbj9X686btfgKdVnTJVMzPjpNnrFFtw3mNW0L6QK/s400/1794542_223917151144112_2012989951_n.jpg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjJi7RdWe77w2Y0zWARUceQGmhEZgQtbKWWUe7jog-IY7Fj8GZQepWC66Zk1km_DaNFO4BX00zHwlrn9X-4wLPCqYXUCcOGucLHQb5-lbj9X686btfgKdVnTJVMzPjpNnrFFtw3mNW0L6QK/s400/1794542_223917151144112_2012989951_n.jpg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhb20C9puACKBqNhpVl03_py76CzYLyyJ3nApIv42POTZtxkzQb8g8ghu3xaA4jwfD4lG_SRSE6ynft7VQLbOMxBe2CooXCQtCp-HFX3Y5xZt_J0SwqYs0huEti-465doI7_W29bbJI0aC_/s400/15232224_611302119072278_6995483275857442321_n.jpg
อาจจะมีรูปไม่เยอะเพราะแพรเพิ่งได้เริ่มเปิดให้ทำการเมื้อไม่นานมานี้เองค่ะ จะมีในส่วนของการให้บริการอาหารตามสั่งและเครื่องดื่ม แพรเปิดให้บริการ 1ชั่วโมง 150 , 3ชั่วโมงขึ้นไปคิดชั่วโมงละ 50 ,เหมาทั้งวัน 500 บาท ในที่นี้มีโปรโมชั่นการให้บริการนักท่องเที่ยว คือ 2 ชั่วโมงคิดแค่ 100 บาท แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือ บริการช้าในด้านการให้เรือมารับ และสั่งของได้ช้ามาก ทั้งนี้ตัวผมเองก็ยังไม่เคยลองไปแพรเลย คงต้องหาโอกาส ไปใช้บริการสถานที่ท่องเที่ยวในชุมชนของตัวเองบ้างแล้วค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น